เทคนิค เอนโดไทน์ คือตัวช่วยสำคัญของศัลยกรรมยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัย
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อบนใบหน้าจะเริ่มหย่อนคล้อยจากแรงโน้มถ่วงและการสูญเสียคอลลาเจน ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส หลายคนอยากยกกระชับหน้าให้กลับมาดูอ่อนเยาว์แต่ไม่อยากให้ดูเหมือนผ่านการผ่าตัดมากเกินไป
เอนโดไทน์ คือ อะไร ช่วยแก้ปัญหาที่ทำให้หลายคนมองหาวิธียกกระชับหน้า
ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะเมื่อผิวหน้าเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป หลายคนเริ่มสังเกตได้จาก
หางตาตก คิ้วตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า
ร่องแก้มลึก ใบหน้าดูโทรม
หนังตาบนตกบดบังชั้นตา
เหนียงและกรอบหน้าไม่ชัด
แม้การใช้ครีมหรือเลเซอร์บางชนิดจะช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก การยกกระชับด้วยเทคนิคศัลยกรรมจึงเป็นคำตอบที่เห็นผลชัดเจนกว่า อย่างไรก็ตาม หลายคนยังกังวลเรื่องแผลเป็นและความเจ็บหลังผ่าตัด ซึ่ง “เอนโดไทน์” เข้ามาแก้จุดนี้ได้ตรงจุด
เอนโดไทน์ คืออะไร และทำงานอย่างไร กลไกของเทคนิคเอนโดไทน์
“เอนโดไทน์” คือ อุปกรณ์ช่วยยกและตรึงเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ที่ใช้ในศัลยกรรมดึงหน้า ดึงหน้าผาก หรือยกคิ้ว โดยเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็น แผ่นยึดขนาดเล็ก (Micro-Anchor) ทำจากวัสดุที่สามารถสลายไปได้เองในร่างกาย เช่น PLA (Polylactic Acid)
แพทย์จะใช้เอนโดไทน์ในการ “ยึดเนื้อเยื่อ” ที่หย่อนคล้อยให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น การยกหางตา ดึงคิ้ว หรือยกใบหน้าส่วนกลาง วิธีนี้ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานโดยไม่ต้องใช้ไหมจำนวนมาก และไม่ทิ้งรอยแผลเหมือนการดึงหน้าแบบดั้งเดิม
ทำไมการใช้เอนโดไทน์ถึงปลอดภัย
เป็นวัสดุที่ ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล (FDA)
สามารถ สลายได้เองภายใน 6–12 เดือน แต่ผลลัพธ์ของการยกกระชับยังคงอยู่ได้ยาวนานกว่านั้น
ใช้แผลขนาดเล็ก แพทย์มักซ่อนรอยไว้ตามแนวผม หรือใต้คิ้ว จึงแทบมองไม่เห็น
ขั้นตอนการทำเอนโดไทน์ยกกระชับหน้า
เทคนิคนี้ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างใบหน้า โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้
1. วางแผนและประเมินโครงหน้า
แพทย์จะวิเคราะห์ตำแหน่งความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ เพื่อเลือกจุดยึดที่เหมาะสมที่สุด เช่น บริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม หรือกรอบหน้า
2. ฉีดยาชาและเปิดแผลขนาดเล็ก
เปิดแผลเพียง 1–2 เซนติเมตรในตำแหน่งที่ซ่อนอยู่ เช่น บริเวณขมับหรือไรผม เพื่อสอดแผ่นเอนโดไทน์เข้าไป
3. สอดอุปกรณ์และยึดเนื้อเยื่อ
แพทย์จะสอดเอนโดไทน์เข้าใต้ผิวหนังเพื่อดึงเนื้อเยื่อขึ้นและยึดให้ค้างในตำแหน่งใหม่ จากนั้นเย็บปิดแผลอย่างละเอียด
4. การพักฟื้น
ส่วนใหญ่พักฟื้นเพียง 3–5 วัน อาการบวมช้ำจะค่อยๆ ยุบลง สามารถกลับไปทำงานได้ในหนึ่งสัปดาห์ ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1–2 เดือน
เคล็ดลับและข้อควรรู้ก่อนใช้เทคนิคศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าเอนโดไทน์ มีอะไรบ้าง
เอนโดไทน์ คือ นวัตกรรมศัลยกรรมที่รวมข้อดีของการดึงหน้าแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ให้ผลลัพธ์ยาวนานโดยไม่ทิ้งรอยแผล และเหมาะกับผู้ที่อยากดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ยกกระชับใบหน้าเอนโดไทน์เหมาะกับใครบ้าง
ผู้ที่มีอายุ 35–60 ปี เริ่มมีริ้วรอยหรือใบหน้าหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนานกว่าไหมละลาย แต่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่
ผู้ที่เคยทำเลเซอร์ยกกระชับแล้วยังรู้สึกว่าผลอยู่ไม่นาน
ดูแลหลังทำอย่างไร
ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรกเพื่อลดบวม
งดออกกำลังกายหนักหรือก้มศีรษะนานประมาณ 2 สัปดาห์
นอนยกศีรษะสูงและหลีกเลี่ยงการจับใบหน้าแรงๆ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันทีหลังทำ
ผลลัพธ์อยู่ได้เฉลี่ย 3–5 ปี ขึ้นอยู่กับอายุและสภาพผิว
ไม่มีรอยแผลเป็นชัดเจน และผิวดูเป็นธรรมชาติ
ทำไมควรเลือกเอนโดไทน์ที่ Narada Clinic
ที่ Narada Clinic เชียงใหม่ ศัลยกรรมเอนโดไทน์ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ใช้เทคนิคซ่อนแผลละเอียดและเทคโนโลยีเครื่องมือระดับสากล เพื่อให้คนไข้มั่นใจทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของ Narada Clinic
หมอเฉพาะทางประสบการณ์กว่า 10 ปี
ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย AACI
ใช้เครื่องมือและวัสดุรับรองจากต่างประเทศ
มีบริการประเมินโครงหน้าก่อนทำโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ลูกค้าหลายท่านยืนยันว่าหลังทำเอนโดไทน์ ใบหน้าเรียวขึ้น ดูยกกระชับโดยไม่แข็ง ไม่ต้องพักฟื้นนาน และที่สำคัญ — “ไม่มีใครรู้ว่าทำมา”
สาระน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง
