เมโสแฟต Meso Fat

Facial Design

เมโสแฟต Meso Fat

สลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด โดยการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นแก้ม เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา โดยไม่ต้องผ่าตัด

1 DOSE
฿2,900
฿1,900
4 DOSE
฿8,900
฿6,900
8 DOSE
฿16,900
฿12,900
20 DOSE
฿37,900
฿27,900

฿2,900-฿37,900
฿1,900-฿27,900

💉 เมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร?

เมโสแฟต หรือชื่อเต็มว่า Mesotherapy Fat Reduction คือเทคนิคการสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด โดยการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแก้ม เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บมาก


🔬 เมโสแฟตทำงานอย่างไร?

ตัวยาเมโสแฟตประกอบด้วยสารสำคัญที่ช่วย:

  • เร่งการแตกตัวของเซลล์ไขมัน (Lipolysis)

  • กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง

  • ลดอาการบวมน้ำและช่วยให้ผิวกระชับขึ้น

เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นไขมัน สารในเมโสแฟตจะทำให้ไขมันแตกตัว จากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ขับออกทางระบบของเสียตามธรรมชาติ เช่น ปัสสาวะและเหงื่อ


📍 จุดที่นิยมฉีดเมโสแฟต

  • แก้ม (ลดหน้าบาน ใบหน้าเรียวขึ้น)

  • เหนียง (ใต้คาง)

  • ต้นแขน

  • หน้าท้อง

  • ต้นขา

  • แผ่นหลัง หรือเอวด้านข้าง (ปีกหลัง)


✅ ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

  • ลดไขมันเฉพาะจุดได้ตรงจุด

  • เห็นผลไวใน 5-7 วัน

  • ผิวบริเวณที่ฉีดกระชับขึ้น

  • ราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับวิธีอื่น

  • ปลอดภัย หากใช้ผลิตภัณฑ์แท้และฉีดโดยแพทย์


❌ เมโสแฟตไม่เหมาะกับใคร?

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

  • ผู้ที่มีโรคตับหรือไตรุนแรง

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาในกลุ่มเมโส

  • คนที่ต้องการลดไขมันปริมาณมาก (ควรใช้วิธีดูดไขมันร่วม)


💬 คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ฉีดเมโสแฟตกี่ครั้งเห็นผล?

A: ส่วนมากเห็นผลหลังทำประมาณ 5-7 วัน และควรทำต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง ห่างกัน 1–2 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน

Q: เมโสแฟตอยู่ได้นานไหม?

A: หากควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันที่สลายแล้วจะไม่กลับมาอีกง่าย ๆ แต่ถ้าทานมากเกินไป ไขมันก็อาจสะสมกลับมาใหม่

Q: เจ็บไหม?

A: เจ็บเล็กน้อยคล้ายถูกจิ้ม แต่สามารถประคบน้ำแข็งหรือลงยาชาได้



🧬 เมโสแฟตต่างจากการลดน้ำหนักทั่วไปอย่างไร?

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเมโสแฟตคือการ “ลดน้ำหนัก” ทั้งตัว แต่ในความเป็นจริง เมโสแฟตเหมาะสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หรือต้นแขน ซึ่งไขมันบริเวณเหล่านี้มักดื้อยา และไม่ลดลงแม้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย

เปรียบเทียบ:

วิธีลดไขมัน

เหมาะสำหรับ

ผลลัพธ์

ระยะเวลาเห็นผล

ข้อจำกัด

เมโสแฟต

ไขมันเฉพาะจุด

เฉพาะจุดที่ฉีด

5-7 วัน

ต้องทำต่อเนื่อง

ออกกำลังกาย

ลดทั้งตัว

ทั่วร่างกาย

1-3 เดือน

ต้องมีวินัยสูง

ดูดไขมัน

ปริมาณมาก

ชัดเจนรวดเร็ว

ทันทีหลังหายบวม

ต้องพักฟื้น / ผ่าตัด

💡 ดังนั้น เมโสแฟตเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันบางจุดบนใบหน้า/ร่างกาย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เห็นผลเร็ว และราคาย่อมเยา




🚫 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเมโสแฟต

❌ เมโสแฟตคือการลดน้ำหนักทั้งตัว
→ จริง ๆ แล้วเมโสแฟตลดเฉพาะไขมันเฉพาะจุด ไม่สามารถลดน้ำหนักโดยรวมได้

❌ ฉีดครั้งเดียวแล้วอยู่ถาวร
→ ไขมันสามารถกลับมาได้ หากไม่ควบคุมอาหารและไลฟ์สไตล์

❌ ฉีดแล้วผิวหย่อนคล้อย
→ หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้เทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวกระชับ ไม่หย่อน


🕐 ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

  1. ประเมินใบหน้าหรือร่างกายโดยแพทย์
    วางแผนการฉีดให้เหมาะกับปริมาณไขมันและเป้าหมายของแต่ละคน

  2. ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด
    เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

  3. อาจทายาชาหรือประคบเย็น
    เพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด

  4. ฉีดเมโสแฟตลงในชั้นไขมัน
    โดยแพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะในการกระจายยาให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ

  5. คำแนะนำหลังฉีด
    ดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน


📝 คำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์

  • ไม่ควรฉีดเมโสแฟตถี่เกินไป ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง

  • หลีกเลี่ยงคลินิกที่ไม่มีแพทย์ดูแล หรือใช้ตัวยาไม่มีฉลากชัดเจน

  • ควรฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการออกแบบรูปหน้า เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงาม


📍 ทำไมต้องฉีดเมโสแฟตกับ Narada Clinic?

  • ✅ ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทางทุกเคส

  • ✅ ใช้เทคนิคปลอดภัย ไม่บวม ไม่ช้ำ

  • ✅ ฉีดโดยแพทย์เท่านั้น ไม่มีฉีดโดยผู้ช่วย

  • ✅ ดูแลต่อเนื่องหลังฉีด พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเอง

  • ✅ ราคายุติธรรม เห็นผลจริง




    🆚 ความแตกต่างระหว่างเมโสแฟตกับโบท็อกซ์

    หลายคนมักสับสนระหว่าง “เมโสแฟต” กับ “โบท็อกซ์” เพราะทั้งสองเป็นหัตถการที่ช่วยให้หน้าเรียวลงได้
    แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีจุดประสงค์และกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้


    รายการเปรียบเทียบ

    เมโสแฟต

    โบท็อกซ์

    หน้าที่หลัก

    สลายไขมันเฉพาะจุด

    ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ

    เหมาะสำหรับ

    ลดไขมันแก้ม เหนียง ต้นแขน

    ลดกราม ลดริ้วรอยหน้าผาก ตีนกา

    ผลลัพธ์

    หน้าเรียวจากไขมันลดลง

    หน้าเรียวจากกล้ามเนื้อเล็กลง

    ระยะเวลาเห็นผล

    5–7 วันหลังฉีด

    3–7 วันหลังฉีด

    อยู่ได้นาน

    1–2 เดือน (ขึ้นกับพฤติกรรม)

    4–6 เดือน

    การฉีดซ้ำ

    ควรทำทุก 2–3 สัปดาห์จนกว่าจะพอใจ

    ฉีดซ้ำทุก 4–6 เดือน

    ราคาโดยเฉลี่ย

    ถูกกว่าโบท็อกซ์

    ราคาสูงกว่าบางกรณี

    💡 สรุป

    • ถ้าคุณมี “แก้มเยอะ เหนียงเยอะ” → เหมาะกับเมโสแฟต

    • ถ้าคุณมี “กรามใหญ่ หน้าเหลี่ยม” จากกล้ามเนื้อ → เหมาะกับโบท็อกซ์

    • หลายกรณีแพทย์อาจแนะนำ ฉีดทั้งสองร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่เรียวชัดแบบครบมิติ



    🤝 การฉีดเมโสแฟตควบคู่กับ HIFU หรือ Thermage ดีอย่างไร?

    สำหรับคนที่ต้องการ ผลลัพธ์หน้าเรียว กระชับชัดเป๊ะ อย่างเห็นได้ชัด การฉีดเมโสแฟตเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ
    เพราะแม้จะลดไขมันได้ แต่ผิวอาจยังไม่ยกกระชับเต็มที่แพทย์จึงแนะนำให้ ผสานการทำ HIFU หรือ Thermage ร่วมกับเมโสแฟต ดังนี้

    ✔️ เมโสแฟต + HIFU

    • เมโสแฟตช่วยสลายไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง

    • HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ยิงคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงลงสู่ชั้น SMAS

    • ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยหลังไขมันลด

    • ได้ผลลัพธ์หน้าเรียว + หน้าเด้ง ในเวลาเดียวกัน

    • เหมาะสำหรับคนอายุ 25–40 ปี

    ✔️ เมโสแฟต + Thermage

    • Thermage ใช้คลื่น RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลึกถึงผิวชั้นลึก

    • เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมและผิวเริ่มหย่อนคล้อยจากอายุ

    • ทำให้ผิวตึงขึ้นหลังไขมันลด

    • เหมาะสำหรับคนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อย



    🧠 เคล็ดลับ ทำไมการทำร่วมกันถึงเห็นผลดี?

    • เมโสแฟต = “ลดปริมาณไขมัน”

    • HIFU / Thermage = “ยกกระชับผิวหลังไขมันลด”

    • ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้นโดยไม่หย่อน

    • เหมาะมากสำหรับคนที่อยาก หน้าเรียวแต่ไม่ผ่าตัด


สินค้า/บริการที่เกี่ยวข้อง