Surgery
การเสริมคาง
คือการศัลยกรรมที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียว สมดุล และมีมิติมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย หรือรูปหน้าไม่สมส่วน โดยมีทั้งแบบแผลใน แผลนอก และตัวเลือกอื่นอย่างฟิลเลอร์ หรือการขูดซิลิโคนเพื่อแก้ไขปัญหาซ้ำ
แนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามที่สุด
การเสริมคาง (Chin Augmentation หรือ Mentoplasty) คือหัตถการเพื่อเสริมแต่งโครงสร้างบริเวณคางให้ได้สัดส่วนรับกับรูปหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มี คางสั้น คางตัด คางถอย หรือรูปหน้าขาดสมดุล การเสริมคางจะช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ทำให้หน้าดูเรียว V-Shape ได้อย่างชัดเจน
แก้ไขปัญหาคางสั้น คางถอย คางเบี้ยวไม่สมดุล
ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว เรียบเนียน และได้สัดส่วน
เพิ่มมิติใบหน้าให้ดูสมส่วนทั้งมุมหน้า-มุมข้าง
เสริมความมั่นใจให้ผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น
เป็นวิธีที่นิยมที่สุด ใช้ซิลิโคนทางการแพทย์วางใต้เยื่อหุ้มกระดูกคาง
✅ ข้อดี: อยู่ถาวร รูปทรงคางชัดเจน เลือกขนาด-ทรงได้ตามต้องการ
❗ ข้อเสีย: ต้องผ่าตัด อาจมีบวมช้ำในช่วง 3–7 วันแรก
เหมาะกับคนที่อยากทดลองก่อนทำถาวร หรือแก้ไขรูปคางเพียงเล็กน้อย
✅ ข้อดี: ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันที พักฟื้นน้อย
❗ ข้อเสีย: อยู่ชั่วคราว (6–18 เดือน) ต้องเติมซ้ำเรื่อย ๆ
ผ่าตัดซิลิโคนผ่านด้านในปาก ไม่มีรอยแผลบนใบหน้า
✅ แผลไม่เห็นจากภายนอก
❗ ต้องดูแลความสะอาดช่องปากเป็นพิเศษ
📌 แนะนำให้บ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างเคร่งครัด
ผ่าตัดเปิดแผลเล็กใต้คางแล้วใส่ซิลิโคน
✅ ดูแลแผลง่าย แผลหายเร็ว
❗ มีรอยแผลเล็ก ๆ ที่อาจเห็นใต้คาง (มักจางใน 1–2 เดือน)
📌 เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากช่องปาก
การขูดซิลิโคนคาง คือการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออกในกรณีที่
ซิลิโคนเคลื่อน/เบี้ยว
มีพังผืดรัดแน่น
แพ้วัสดุ หรือมีการอักเสบซ้ำ
แพทย์จะเปิดแผลเพื่อนำซิลิโคนออก และอาจปรับรูปทรงใหม่ในกรณีต้องการเสริมใหม่ในรอบเดียวกัน
การขูดซิลิโคนจำเป็นต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
ปรึกษาแพทย์ – ประเมินใบหน้า เลือกขนาด/ทรงซิลิโคนให้เข้ากับโครงหน้า
เตรียมตัวก่อนผ่าตัด – งดอาหาร วิตามิน และยา 7 วันก่อนผ่าตัด
ระหว่างผ่าตัด – ใช้ยาชาเฉพาะจุด ใช้เวลา 30–60 นาที
การพักฟื้น – นอนยกหัวสูง หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทก
ติดตามผล – เข้าตรวจตามนัดทุกระยะ เพื่อเช็คความเข้าที่ของซิลิโคน
หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว เผ็ดจัด ในช่วง 3–5 วันแรก
ถ้าแผลในปาก ควรบ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
งดใช้แรง หรือกระแทกบริเวณคาง
งดแต่งหน้าและเลี่ยงแสงแดดรุนแรงในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
ผู้ที่มีคางสั้น คางถอย หรือคางไม่ชัด
ผู้ที่ต้องการใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้ที่มีโครงหน้าขาดสมดุลระหว่างจมูก-ปาก-คาง
สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง
บวม ช้ำ 3–7 วันแรก (ถือเป็นเรื่องปกติ)
การติดเชื้อ (พบน้อย หากดูแลไม่ถูกต้อง)
ซิลิโคนเคลื่อนตัว หากโดนกระแทกแรง
อาการชา หรือตึงที่คางช่วงแรก (มักหายภายใน 1–2 สัปดาห์)
Q: เสริมคางอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: หากเป็นซิลิโคนคุณภาพสูง อยู่ได้ถาวร แต่หากเป็นฟิลเลอร์ จะอยู่ประมาณ 6–18 เดือน
Q: เสริมคางเจ็บไหม?
A: ระหว่างทำไม่เจ็บ เพราะใช้ยาชา หลังทำอาจรู้สึกตึงหรือระบมเล็กน้อย
Q: พักฟื้นนานไหม?
A: โดยทั่วไปสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใน 3–5 วัน
Q: เสริมคางพร้อมศัลยกรรมอื่นได้ไหม?
A: ทำได้ เช่น เสริมจมูก ดูดไขมันเหนียง เพื่อปรับรูปหน้าทั้งองค์รวม