HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)

Facial Design

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)

HIFU เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ


HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

HIFU คืออะไร?

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ผิวเกิดการหดตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องพักฟื้น


จุดเด่นของการทำ HIFU

  • ✅ ยกกระชับผิวหน้า กรอบหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

  • ✅ ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก เช่น ร่องแก้ม มุมปาก

  • ✅ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ใต้คาง เหนียง หรือคอ

  • ✅ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูสดใส สุขภาพดี

  • ✅ ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที


เหมาะกับใครที่ควรทำ HIFU?

  • ผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ

  • ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่อยากศัลยกรรม

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวชัด ลดเหนียงและแก้ม

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ ดูดีขึ้นโดยไม่เปลี่ยนโครงหน้า


ผลลัพธ์หลังทำ HIFU

  • หลังทำทันที: จะรู้สึกถึงความตึงกระชับเล็กน้อย

  • 1–2 เดือน: เห็นผลชัดเจนขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนใหม่ถูกสร้าง

  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน: 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล


ข้อควรรู้ก่อนทำ HIFU

  • ใช้เวลาทำประมาณ 30–60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ

  • ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น

  • อาจมีอาการผิวแดงหรือเจ็บเล็กน้อย แต่จะหายไปภายใน 1–2 ชั่วโมง

  • ควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

HIFU เจ็บไหม?

รู้สึกเหมือนมีแรงดึงหรือจิ๊ด ๆ ใต้ผิว แต่สามารถทนได้ ไม่ต้องใช้ยาชา

HIFU กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร?

  • HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติในราคาคุ้มค่า

  • Ulthera ใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกัน แต่มีการแสดงผลแบบ Real-time ทำให้แม่นยำมากกว่า

ควรทำ HIFU บ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไปควรทำปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ผิวที่ยกกระชับอยู่เสมอ



ทำไม HIFU ถึงได้รับความนิยม?

เพราะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความปลอดภัย เห็นผลจริง และไม่ต้องผ่าตัด ทำให้คนที่กลัวการศัลยกรรมหันมาเลือกใช้ HIFU กันมากขึ้น


HIFU ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

  • ริ้วรอยรอบดวงตา

  • ร่องแก้มลึก

  • แก้มและเหนียงย้อย

  • ผิวหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าและคอ

  • ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ขาดความยืดหยุ่น


ความแตกต่างระหว่าง HIFU กับเลเซอร์ทั่วไป

  • HIFU เจาะลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า)

  • เลเซอร์ทั่วไป ทำงานเพียงแค่ชั้นผิวตื้นหรือกลาง ช่วยเรื่องผิวใส รอยสิว แต่ไม่ยกกระชับได้ลึกเท่า HIFU


การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU

  1. ควรงดการทำทรีตเมนต์ที่รุนแรง เช่น เลเซอร์ผลัดเซลล์ ก่อนทำ 1 สัปดาห์

  2. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดในวันที่เข้ารับบริการ

  3. แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือเคยทำศัลยกรรมมาก่อน


การดูแลหลังทำ HIFU

  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด เช่น ซาวน่า ตากแดดแรง ๆ 1–2 วัน

  • ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิว

  • ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ให้เพียงพอ

  • สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหลังทำทันที


ความปลอดภัยของ HIFU

HIFU ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหลายประเทศทั่วโลก และมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้จริง


ทำ HIFU ใช้เวลานานแค่ไหน?

โดยเฉลี่ยการทำ HIFU ใช้เวลาเพียง 30–60 นาที เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลามาก สามารถทำในช่วงพักกลางวันและกลับไปทำงานต่อได้ทันที


ราคา HIFU เริ่มต้นเท่าไหร่?

ราคาของการทำ HIFU แตกต่างกันตามจำนวนไลน์หรือช็อตที่ใช้ รวมถึงยี่ห้อเครื่อง โดยทั่วไปเริ่มตั้งแต่ 5,000–30,000 บาท ต่อครั้ง


รีวิว HIFU จากผู้ใช้จริง

ผู้เข้ารับบริการหลายคนยืนยันว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า เหนียง และแก้มที่ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ


ทำ HIFU ที่ไหนดี?

ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้เครื่องแท้ ผ่านการรับรองจาก อย. และทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลจริง



HIFU ใช้เครื่องอะไรบ้าง?

ในท้องตลาดมีเครื่อง HIFU หลากหลายรุ่น เช่น Ultraformer III, Doublo-S, Sygmalift แต่ละเครื่องจะมีความแตกต่างด้านความลึกและประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของแพทย์


ระยะเวลาเห็นผลหลังทำ HIFU

  • บางคนเห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ

  • ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2–3 เดือน

  • อยู่ได้นานเฉลี่ย 6–12 เดือน


HIFU ต่างจาก Thermage อย่างไร?

  • HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงลงลึกถึงชั้น SMAS

  • Thermage ใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) เหมาะกับการกระชับผิวในชั้นตื้นมากกว่า


การทำ HIFU บริเวณไหนได้บ้าง?

  • ใบหน้า (แก้ม เหนียง คาง ร่องแก้ม หน้าผาก รอบตา)

  • ลำคอและใต้คาง

  • หน้าอกบริเวณเนินอก

  • ท้อง แขน ขา สำหรับผิวหย่อนคล้อย


HIFU ช่วยลดไขมันได้หรือไม่?

นอกจากการยกกระชับแล้ว พลังงาน HIFU ยังสามารถช่วยลดไขมันเฉพาะจุดเล็กน้อย เช่น บริเวณแก้มและเหนียง ทำให้ใบหน้าเรียวชัดขึ้น


ใครบ้างที่ไม่ควรทำ HIFU?

  • ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)

  • ผู้ที่มีโลหะหรือซิลิโคนฝังในบริเวณที่จะทำ

  • ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการอักเสบของผิวหนังในบริเวณนั้น

  • หญิงตั้งครรภ์


ทำไมต้องทำ HIFU กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ?

การยิงพลังงาน HIFU จำเป็นต้องอาศัยความรู้ด้านกายวิภาคและการปรับระดับพลังงานที่เหมาะสม หากทำผิดวิธีอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนหรือเกิดผลข้างเคียงได้


HIFU เหมาะกับอายุเท่าไหร่?

โดยทั่วไปเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่คอลลาเจนเริ่มลดลง แต่สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีหากเริ่มมีผิวหย่อนคล้อย


การทำ HIFU ร่วมกับหัตถการอื่น

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น สามารถทำ HIFU ควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือเลเซอร์ผิวใสได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ HIFU

  • ❌ HIFU ไม่ได้ทำให้หน้าตอบหรือผอมจนเสียรูป

  • ❌ HIFU ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้น

  • ❌ HIFU ไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นคลื่นอัลตราซาวด์


สินค้า/บริการที่เกี่ยวข้อง