ฟิลเลอร์ (Filler)

Facial Design

ฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์

(Filler) คือสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และเมื่อใช้ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหรือชั้นไขมัน จะช่วย

เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มวอลลุ่ม

ให้ผิวหน้าดูอิ่มฟู เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้น

1 CC
฿14,900
฿11,900

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และเมื่อใช้ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหรือชั้นไขมัน จะช่วย เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มวอลลุ่ม ให้ผิวหน้าดูอิ่มฟู เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้น


🔬 เนื้อฟิลเลอร์คืออะไร? มีลักษณะอย่างไร?

เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็น เจลใส เหนียวข้น แต่ยังคงความยืดหยุ่นสูง สามารถกระจายตัวในชั้นผิวได้ดี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ โดยทั่วไปจะแบ่งระดับความหนาแน่น (Density) ของเนื้อฟิลเลอร์ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่:

  1. เนื้อนุ่ม (Soft Texture)
    – ใช้บริเวณผิวบาง เช่น ใต้ตา ริมฝีปาก ร่องน้ำตา
    – กระจายตัวง่าย เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

  2. เนื้อปานกลาง (Medium Texture)
    – ใช้เติมร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือหน้าผาก
    – ยืดหยุ่นดี อยู่ตัว ไม่ไหลง่าย

  3. เนื้อแข็ง (Hard Texture)
    – ใช้ในการปรับโครงหน้า เช่น คาง กราม จมูก
    – เนื้อฟิลเลอร์คงตัวสูง เหมาะสำหรับการขึ้นรูปโครงหน้า


✅ ฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม?

ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. (องค์การอาหารและยา) ทั้งในไทยและต่างประเทศ (เช่น FDA จากอเมริกา CE Mark จากยุโรป) มีความปลอดภัยสูง สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย โดยทั่วไปจะสลายหมดภายใน 12 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและบริเวณที่ฉีด


💡 ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ

  • ไม่ต้องพักฟื้น

  • ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด

  • ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

  • เติมเต็มร่องลึก ผิวดูเด็กลง


🔍 ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะจับได้ไหม?

ฟิลเลอร์ที่ดีจะเนียนไปกับผิว ไม่มีรอยนูนหรือก้อน หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกใช้ ฟิลเลอร์แท้ที่เหมาะกับบริเวณนั้น ๆ ก็จะไม่สามารถจับได้ หรือหากจับได้จะรู้สึกเหมือนเนื้อธรรมชาติ


📌 ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยมในคลินิก

  • Juvederm (USA) – ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียม เนื้อเนียนละเอียด อยู่ได้นาน

  • Restylane (Sweden) – ยืดหยุ่นดี เหมาะกับการเติมทุกจุด

  • Belotero (Germany) – กระจายตัวดีมาก เหมาะกับผิวบาง

  • Neuramis / Dermalax / Revolax (Korea) – ราคาเข้าถึงง่าย เห็นผลชัด


📋 คำแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • ควรตรวจสอบยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ พร้อมกล่องและเลขล็อตทุกครั้ง

  • ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้เทคนิคปลอดภัย

  • หลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 3-5 วันก่อนทำ



    ฟิลเลอร์ที่แพทย์แนะนำและเลือกใช้ที่ Narada Clinic

    1. Restylane Skinboosters Vital

    Restylane Skinboosters Vital เป็นฟิลเลอร์ประเภท ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) รุ่นพิเศษ ที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและฟื้นฟูผิวจากภายใน เป็นเทคโนโลยี Skin Booster ที่แตกต่างจากฟิลเลอร์เติมเต็มทั่วไป เพราะจะช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระจ่างใส เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ โดยไม่เพิ่มวอลลุ่มมากเกินไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวสุขภาพดีแบบธรรมชาติ ใช้ได้กับทุกบริเวณ เช่น ใต้ตา แก้ม หน้าผาก และลำคอ

    • ข้อดี

      • เติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟู กระจ่างใส

      • ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และผิวหยาบกร้าน

      • เห็นผลอย่างเป็นธรรมชาติ

      • สลายได้เองตามธรรมชาติ ภายใน 6-12 เดือน



    2. Juvederm Ultra Plus XC

    Juvederm Ultra Plus XC เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเทคโนโลยี Vycross ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเนียนนุ่ม ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือปรับรูปหน้าอย่างคางและกราม ให้ดูได้รูปชัดเจนแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ พร้อมผสมยาชาในตัว (XC) ทำให้การฉีดฟิลเลอร์เจ็บน้อยลงมาก

    • ข้อดี

      • เติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มได้ดี

      • เนื้อฟิลเลอร์เนียนนุ่ม ไม่เป็นก้อน

      • มีส่วนผสมยาชาช่วยลดความเจ็บขณะฉีด

      • อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

      • เหมาะกับทุกสภาพผิวและทุกบริเวณที่ต้องการปรับรูปหน้า



    ทำไมแพทย์เลือกใช้ฟิลเลอร์ 2 ตัวนี้?

    • ทั้งสองแบรนด์ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. และ FDA

    • คุณภาพฟิลเลอร์สูง ช่วยให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ

    • มีงานวิจัยและรีวิวจากทั่วโลกรับรองประสิทธิภาพ

    • มีเทคโนโลยีเฉพาะที่ช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและสลายตามธรรมชาติอย่างปลอดภัย

    • แพทย์ที่ Narada Clinic ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ทั้งสองชนิดโดยตรง



    ถ้าคุณสนใจฉีดฟิลเลอร์ Restylane Skinboosters Vital หรือ Juvederm Ultra Plus XC สามารถจองคิวปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Narada Clinic ได้เลยค่ะ!

    💉 ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

    1. ปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
      แพทย์จะประเมินรูปหน้า วิเคราะห์จุดที่ควรเติมเต็ม และแนะนำเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหา

    2. ทำความสะอาดผิวหน้า
      ก่อนฉีดจะล้างหน้าให้สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

    3. ทายาชา/ฉีดยาชา (ถ้าจำเป็น)
      บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ แพทย์อาจใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อความสบายของคนไข้

    4. ฉีดฟิลเลอร์ตามจุดที่วางแผนไว้
      ใช้เข็มหรือท่อคาเนูล่าที่ปลอดเชื้อและเหมาะกับบริเวณนั้นๆ เพื่อเติมเต็มชั้นผิว

    5. นวดเบาๆ เพื่อเกลี่ยเนื้อฟิลเลอร์
      เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียนและอยู่ตัวอย่างเป็นธรรมชาติ

    6. ตรวจสอบผลลัพธ์ และคำแนะนำหลังฉีด
      แพทย์จะตรวจดูผลลัพธ์และให้คำแนะนำดูแลหลังฉีดอย่างละเอียด



    🕒 ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

    ระยะเวลาการสลายตัวของฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของฟิลเลอร์, บริเวณที่ฉีด, อัตราการเผาผลาญของแต่ละบุคคล เป็นต้น โดยทั่วไป:

    • ฟิลเลอร์ประเภท HA (Hyaluronic Acid) อยู่ได้นาน 9-18 เดือน

    • บางยี่ห้อรุ่นใหม่อาจอยู่ได้นานถึง 24 เดือน

    • ฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณริมฝีปากหรือใต้ตา มักสลายเร็วกว่า เพราะเป็นบริเวณที่เคลื่อนไหวมาก



    ⚠️ ผลข้างเคียง และความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์

    ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและฉีดโดยแพทย์มืออาชีพนั้นมีความเสี่ยงน้อยมาก แต่ผู้รับบริการควรทราบถึงผลข้างเคียงเบื้องต้น เช่น

    • รอยช้ำ บวมแดง เล็กน้อยหลังฉีด (จะหายภายใน 2-3 วัน)

    • อาการแพ้ (พบได้น้อยมากในฟิลเลอร์ HA แท้)

    • ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือไม่เรียบเนียน (แก้ไขได้โดยการฉีดเอนไซม์สลาย)

    • ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น การอุดตันเส้นเลือด ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนจากแพทย์



    🔧 การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

    • หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดจุดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์

    • หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า แสงแดดจัด เป็นเวลา 1-2 วัน

    • ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี

    • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด

    • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวมแดงรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที



    ❓ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ (FAQ)

    1. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?

    โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหรือชาเพียงชั่วคราว เนื่องจากแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือฟิลเลอร์บางยี่ห้อก็มีส่วนผสมยาชาในตัว ทำให้การฉีดสบายขึ้นมาก

    2. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

    ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) มักอยู่ได้นานประมาณ 9-18 เดือน ขึ้นกับยี่ห้อและตำแหน่งที่ฉีด แต่สามารถเติมเพิ่มได้เมื่อรู้สึกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลาย

    3. ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันอย่างไร?

    • ฟิลเลอร์ เติมเต็มร่องลึก เพิ่มวอลลุ่มให้ผิว

    • โบท็อกซ์ ช่วยลดริ้วรอยจากกล้ามเนื้อ เช่น รอยตีนกา ลดกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียว

    ทั้งสองอย่างมักใช้ควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    4. หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นกี่วัน?

    โดยปกติไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนวดแรงหรือความร้อนจัดประมาณ 1-2 วันหลังฉีด

    5. ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ไหม?

    ถ้าฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ ปัญหานี้จะเกิดได้น้อยมาก แต่ถ้าพบก้อนหรือบวมผิดปกติ สามารถมาพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)


    📍 จุดที่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์แต่ละชนิด

    ✨ Restylane Skinboosters Vital เหมาะสำหรับ

    ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่เน้นการปรับโครงหน้า เติมน้ำให้ผิว เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี

    บริเวณที่นิยมฉีด

    • ใต้ตา (ลดความคล้ำ + ริ้วรอยเล็ก)

    • แก้มส่วนบน (เพิ่มความอิ่มฟู)

    • หน้าผาก (ลดริ้วรอยขนาดเล็ก)

    • ลำคอ และหลังมือ (ลดความแห้งกร้าน)

    ผลลัพธ์
    ✔ ผิวดูเด็กลง ผิวละเอียดขึ้น
    ✔ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ อายุ 25+
    ✔ ทำต่อเนื่องทุก 6 เดือน เพื่อผิวสุขภาพดีระยะยาว


    💎 Juvederm Ultra Plus XC เหมาะสำหรับ:

    ผู้ที่ต้องการ “เติมเต็ม + ปรับรูปหน้า” อย่างชัดเจน เช่น ยกหน้า เติมคาง เสริมโหนกแก้ม ให้ดูได้รูป คมชัด

    บริเวณที่นิยมฉีด

    • ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก

    • คาง (ปรับรูปหน้าเรียว)

    • หน้าผาก / ขมับ (เพิ่มมิติให้ใบหน้า)

    • จมูก (สำหรับเคสที่ไม่ต้องการผ่าตัด)

    ผลลัพธ์
    ✔ หน้าเป๊ะได้รูปแบบเป็นธรรมชาติ
    ✔ คงผลลัพธ์นาน 12-18 เดือน
    ✔ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับหน้าให้คมชัดแบบไม่ต้องผ่าตัด



    คำแนะนำจากแพทย์ Narada Clinic

    “การเลือกฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่เลือกยี่ห้อ แต่ต้องดูว่าเนื้อฟิลเลอร์ชนิดไหนเหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด และปัญหาของแต่ละคน เราจะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองเท่านั้น และมีประสบการณ์เฉพาะจุด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และอยู่ได้นาน”

    💡 แพทย์จะเป็นผู้ประเมินสภาพผิวและรูปหน้าอย่างละเอียดก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อเลือกใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่เหมาะที่สุดกับแต่ละคน



    ตารางเปรียบเทียบฟิลเลอร์
    Restylane Skinboosters VS Juvederm Ultra Plus XC

    รายการเปรียบเทียบ

    Restylane Skinboosters Vital

    Juvederm Ultra Plus XC

    จุดเด่น

    เพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว

    เติมเต็ม ปรับรูปหน้า

    ลักษณะเนื้อ

    เจลบางเบา ซึมผิวดี

    เจลแน่น ปั้นรูปได้ดี

    เหมาะกับจุด

    ใต้ตา แก้ม หน้าผาก ลำคอ

    คาง ร่องแก้ม จมูก

    ระยะเวลาคงอยู่

    6-12 เดือน

    12-18 เดือน

    กลุ่มเป้าหมาย

    ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว

    ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า



    📲 สนใจฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์เฉพาะทาง

    ✔️ ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ทุกกล่อง
    ✔️ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
    ✔️ แนะนำสูตรเฉพาะบุคคลโดยแพทย์ประสบการณ์สูง
    📍 ที่ Narada Clinic – คลินิกความงามที่ให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัย ความชำนาญ และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ


สินค้า/บริการที่เกี่ยวข้อง